ชาบูชาบู (shabu - shabu) อาหารประเภทต้ม หรือ ลวกจิ้ม มีเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นที่นิยมของคนไทยค่อนข้างสูง ลักษณะการประกอบอาหารของแต่ละร้าน ก็จะแตกต่างกันออกไป กนำวัตถดิบที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ เข้ามาบริการเสริม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามารับประทาน จะสังเกตได้ว่า การรับประทานชาบูนั้นจะไปกันเป็นกลุ่ม ในกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือ ว่าคู่รัก ร่วมสังสรรค์ด้วยกัน ซึ่งสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี จะไม่นิยมรับประทานคนเดียว รับประทานไปด้วยมีเรื่องราวมาคุยในวงสนทนา วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่นำมาประกอบเพื่อเป็นชาบูหนึ่งหม้อ จะประกอบไปด้วย เนื้อหมูสไลด์ เนื้อวัวสไลด์ ตับ น้ำซุปแยกสำหรับลวกผักและเนื้อ เต้าหู้ ต้นหอม ผัดกาดขาว หัวไชเท้า น้ำจิ้มของชาบู ซึ่งการจัดวัตถุดิบของแต่ละร้านก็จะมีความต่างกัน
วิธีการรับประทานชาบูให้อร่อยก็ตือ เมื่อน้ำเริ่มเดือด ก็จะทยอยใส่ผักที่ร้อนยากลงไปในหม้อเสียก่อน จากนั้นขณะที่น้ำกำลังเดือด ใช้กะเกียบคีบเนื้อลงไปแกว่งลวกในหม้อ(ซึ่งว่ากันว่า การแก่วงเนื้อในหม้อมีเสียง จึงเป็นที่มาของคำว่า ชาบูชาบู จึงเรียกอาหารชนิดนี้ต่อกันมาว่า ชาบูชาบู ) แล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ รับประทานขณะร้อน ๆ ให้รสชาติของเนื้อนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี (ไม่ควรนำเนื้อลงหม้อภายในครั้งเดียว) จึงเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในการรับประทานชาบู เมื่อก่อนชาวญี่ปุ่นจะนิยมรับประทานชาบูในหน้าหนาว เพราะจะเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย แต่ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมาก ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ชาบูก็เป็นอาหารที่สร้างความอร่อยได้ทุกเมื่อ